





HOST CITY
Chiang Mai X Bangkok
เชียงใหม่ X กรุงเทพ
เชียงใหม่: ยินดีต้อนรับสู่จังหวัด “เชียงใหม่” เมืองที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยสดและงดงาม ผสมผสานกับวัฒนธรรมล้านนาและสีสันของความร่วมสมัยอย่างลงตัว เชียงใหม่จึงกลายเป็น The Best of ล้านนาที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาสัมผัสความล้ำค่านี้เป็นจำนวนมาก ปีละหลายล้านคน
โดยเมื่อนักท่องเที่ยวก้าวเท้าเหยียบแผ่นดินล้านนาแล้วนั้น กิจกรรมยอดฮิตที่นิยมทำกัน คือ การขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ อันเป็นสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงใหม่ สัมผัสบรรยากาศความย้อนยุคของวิถีชีวิตพื้นเมือง เลือกชมเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดในบรรยากาศสุดเรโทรที่ถนนคนเดินท่าแพ ยลโฉมพันธุ์ไม้นานาชนิด ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ รวมไปถึงการได้ไปใช้ชีวิตท่ามกลางบรรยากาศของความวินเทจ ผ่านการแวะ ชม ชิม ช็อป ร้านค้าร้านอาหาร ศิลปวัฒนธรรม ตึกราบ้านช่อง แห่งถนนนิมมานเหมินทร์
นอกจากนี้สายท่องเที่ยวธรรมชาติ ก็ไม่พลาดที่จะต้องออกเดินทางสู่ความร่มเย็นและสงบ ผ่านการท่องเที่ยวขึ้นเขาลงดอย ชมธรรมชาติ เป็นอีกกิจกรรมที่ต้องห้ามพลาด เมื่อก้าวเท้าเข้ามาเยือนเชียงใหม่ ไม่ว่าคุณจะทะยานขึ้นไปเหยียบบนจุดสูงของประเทศไทยบนดอยอินทนนท์ หรือซึมซับความตระการตาของนาขั้นบันไดม่อนแจ่ม ต้อนรับลมหนาวที่สาดความเย็นสบายผ่านหน้า พร้อมชมดอกพญาเสือโคร่ง ณ ดอยอ่างขาง หรือจะเป็นท่องเที่ยวในสไตล์นักอนุรักษ์แบบโฮมสเตย์ที่แม่กำปอง แม้แต่เยี่ยมชมหมู่บ้านม้งที่ดอยปุย ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน หรือไปที่ไหน ต่างได้สัมผัสความล้ำค่าและความเลื่องลือของจังหวัดนี้อย่างอิ่มเอม
เชียงใหม่ถือได้ว่ามีความขึ้นชื่อเรื่อง ประเพณีและวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ที่เป็นเช่นนี้สืบเนื่องมาจากเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นราชธานีและเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้านของอาณาจักรล้านนา รวมถึงยังรับวัฒนธรรมจากต่างถิ่นต่างแดน เข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็นอัตลักษณ์และเอกลักษณ์เฉพาะตน สมกับคำขวัญที่ว่า ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ตกหลุมรักความ Amazing ของประเทศไทย คุณก็ไม่พลาดที่จะหลงรักความ Amazing ล้านนา ของเมืองเชียงใหม่ อย่างแน่นอน!
กรุงเทพมหานคร: หากพูดถึงกรุงเทพมหานคร ที่นี่คือเมืองหลวงและนครที่มีประชากรมากที่สุดในไทย คือศูนย์กลางของทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการปกครอง การศึกษา คมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การสื่อสาร การพาณิชย์ และความเจริญของประเทศ กรุงเทพฯ คือเมืองที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก โดยคำว่ากรุงเทพมหานคร แปลว่า “พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร” ตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน และแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี โดยพื้นที่ทั้งหมดคือ 1,568.737 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรตามทะเบียนราษฎร์กว่าห้าล้านคน กรุงเทพฯ จึงกลายเป็นเอกนคร (Primate City)
กรุงเทพฯ คือเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก พร้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง Landmark สำคัญหลายที่ อาทิ พระบรมมหาราชวัง, พระที่นั่งวิมานเมฆ รวมถึงวัดวาอารามอีกหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมการค้าขายที่สำคัญมากมาย กระทั่งกรุงเทพฯ กลายเป็นมหานครที่นักท่องเที่ยวอยากมามากที่สุด
เหตุผลอะไรบ้างที่กรุงเทพฯ จึงกลายเป็นเมืองน่าเที่ยวในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประการแรกเลยคือ กรุงเทพฯ ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกิน หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาที่นี่ พร้อมสรรพไปด้วยของกินมากมายและหลากหลาย มีตั้งแต่อาหารข้างทางไปจนถึงร้านดัง พร้อมทั้งอาหารไทย ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ยุโรป ครบครันทุกเชื้อชาติ ประการที่สองคือ เรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะ Adventure, ท่องเที่ยวธรรมชาติ, พิพิธภันฑ์, แหล่ง Shopping และอื่นๆ อีกมากมาย ประการที่สามจะเป็นเรื่องการเดินทางที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะทางน้ำก็มีเรือ ทางบกต้องรถเมล์ รถตู้ รถแท็กซี่ หรือตุ๊กตุ๊ก ทางรถไฟก็ต้องไป BTS ทางใต้ดินก็ต้องเป็น MRT สะดวกแบบไหนก็ไปแบบนั้นได้เลย ประการที่สี่หนีไม่พ้นเรื่องศิลปะวัฒนธรรมที่งดงาม ซึ่งกรุงเทพก็คือศูนย์กลางของสถาปัตยกรรม อารยธรรม และวัฒนธรรม ที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ประการสุดท้ายคือ กรุงเทพฯ เป็นดินแดนที่มีที่พักอาศัยมากมายอย่างหลากหลาย
เพราะที่นี่คือเมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหล จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของผู้ที่หลงรักในการเดินทาง ดังนั้นเรื่องที่พักก็เป็นปัจจัยหลักสำคัญของการเดินทาง ซึ่งที่นี่มีทั้ง โฮสเทล เกสต์เฮ้าส์ โรงแรมราคาประหยัด โรงแรมหรูหรา บ้านเช่า อพาร์ทเมนต์ คอนโด และอีกมากมาย
จึงสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า นี่คือนครที่ครบครันในเรื่องเที่ยว ครบรสชาติทุกการกิน อุดมสมบูรณ์เรื่องวัฒนธรรม อิ่มเอมไปกับทุกสถาปัตยกรรม นี่คือดินแดนที่คุณจะสามารถซึมซับทุกรสชาติของชีวิตไว้ได้อย่างครบถ้วน
SWISSOTEL BANGKOK RATCHADA



Swissotel Bangkok Ratchada – SHA Extra Plus
โรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจและแวดล้อมไปด้วยสถานบันเทิงที่ทันสมัยมากมาย อยู่ห่างจากสถานี MRT ห้วยขวางเพียง 2 นาทีด้วยการเดินเท้า ที่พักแห่งนี้เปิดให้บริการห้องพัก พร้อมตกแต่งอย่างหรูหราครบครัน และครบเครื่องเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี พร้อมทั้งพื้นที่สำหรับจอดรถอย่างกว้างขวาง Swissotel คือโรงแรมระดับ 5 ดาวใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่สามารถมอบความสะดวกสบายให้กับทุกรูปแบบการเดินทางของคุณ ทั้งการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจ งานสัมมนา และต้อนรับแขกในระดับ VIP เป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชีย ปลอดภัยและสะอาด ด้วยการได้รับใบรับรองด้านความสะอาด สัญลักษณ์ ALLSAFE และผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว (SHA) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) ในด้านความสะอาดสุขอนามัย รวมไปถึงการเว้นระยะห่างทางสังคมและมาตรฐานความปลอดภัยภายในโรงแรม
โรงแรม Swissotel มีห้องประชุมกว่า 23 ห้อง และสามารถเลือกรูปแบบห้องได้ตามต้องการ สำหรับท่านที่ต้องการจัดงานสัมมนา หรือจัดเลี้ยงต่างๆ และงานแต่งงาน เป็นต้น ห้องประชุมของ Swissotel เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นในการนำเสนองาน ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง LCD โปรเจ็กเตอร์ อุปกรณ์สำหรับวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย จึงสามารถเลือกห้องประชุมได้เหมาะสมตามความต้องการได้อย่างง่ายดาย นอกเหนือจากนั้นโรงแรมแห่งนี้ยังให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกทุกประเภทสำหรับการเดินทางมาพักผ่อน หรือติดต่อธุรกิจ ผู้เข้าพักอาศัยสามารถผ่อนคลายได้ที่ริมสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ หรือจะสบายๆ ไปกับการทรีทเมนท์แบบครบวงจร ที่ Le Concorde Spa อีกทั้งยังมีแหล่งช็อปปิ้งและศูนย์ออกกำลังกายพร้อมกิจกรรมอีกมากมายหลากหลายให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับเรา มีห้องอาหารและบาร์กว่า 4 แห่งให้ได้ลิ้มลองรสชาติความสุนทรีของชีวิต โรงแรม Swissotel จึงตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

Hall For National Costume Competition, Preliminary Competition and Final Show
หนึ่งในฮอลล์ที่มีพื้นที่จัดงานอินดอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร โดย MGI HALL ตั้งอยู่บนชั้น 6 SHOW DC Mega Complex รองรับการจัดงานอีเวนท์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต หรืออีเวนท์ต่างๆ ตลอดจนกลุ่มธุรกิจไมซ์ ด้วยขนาดฮอลล์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7,000 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับได้กว่า 7,000 คน หรือประมาน 4,000 ที่นั่ง และ Hall 2 ยังสามารถจัดงานและรองรับคนได้ถึง 1,200 คน พร้อมด้วยจอ LED ขนาดใหญ่มีขนาดถึง 7200×3200 Pixel หรือขนาด กว้าง 18 สูง 8 เมตร ความคมชัดมากกว่า 4K จึงถือเป็นพื้นที่จัดงานอินดอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใจกลางกรุงฯ
MGI HALL เป็นพื้นที่จัดงานแห่งใหม่ที่เต็มไปด้วยแนวคิดสร้างสรรค์และทันสมัย และจะเป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมและการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนที่ไหนมาก่อน ไม่ว่าจะโชว์พิเศษสุดอลังการหรือคอนเสิร์ตระดับโลก รวมไปถึงกิจกรรมอินดอร์ต่างๆ อาทิ Event & Activities, MICE:Meeting Incentive Convention Exhibition, Conference/Press Conference, TVProduction/Live Streaming Production, E-Sport&Gaming, Celebrations & Parties, Wedding & Banquet และที่น่าตื่นตาตื่นใจไปกว่านั้น MGI HALL สามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดได้อย่างตรงเป้าหมายรวมทั้งสามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่ผู้จัดงานทั้งในและต่างประเทศกำลังมองหา
ทั้งนี้ผู้จัดงานสามารถเนรมิตอีเวนท์ได้ตามความต้องการ สามารถออกแบบเลย์เอาท์และดีไซน์พื้นที่การจัดงาน สามารถสร้างสรรค์เวทีและติดตั้งอุปกรณ์เครื่องเสียงได้ตามความเหมาะสมกับงานแต่ละประเภท นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ ห้องแต่งตัวพร้อมห้องน้ำสำหรับนักแสดงโดยเฉพาะ มากถึง 6 ห้อง และห้องประชุมขนาดใหญ่สำหรับผู้จัดงาน ห้องน้ำขนาดใหญ่สองห้องเพื่อรองรับกับผู้ชมจำนวนมาก บูธขายบัตรและเคาน์เตอร์บริการข้อมูล อีกทั้งยังมีพื้นที่เสริมอื่นๆ ซึ่งให้บริการอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน ที่นี่จึงมีความยืดหยุ่นในการจัดกิจกรรมทุกประเภท รวมถึงมีบริการรถยกที่สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 30 ตัน พร้อมลิฟต์ขนของรองรับน้ำหนักได้ 3.5 ตัน เหมาะสำหรับการขนย้ายอุปกรณ์ขนาดใหญ่ และยังมีที่จอดรถรองรับได้่ถึง 1,200 คัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ MGI HALL เป็นฮอลล์ที่มีฟังก์ชั่นและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
MISS GRAND THAILAND 2022 SHOW
WELCOME CEREMONY PRESS CONFERENCE
MISS GRAND THAILAND 2022 GRAND FINAL
COMPETITION FORMAT
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาผู้เข้าประกวด Miss Grand Thailand
กองประกวด Miss Grand Thailand พิจารณาผู้เข้าประกวดโดยองค์รวมทั้งหมด ตั้งแต่สาวงามผู้เข้าประกวดได้ดำรงตำแหน่งเป็นตัวแทนมิสแกรนด์จังหวัด ไปจนถึงวันแรกที่ก้าวเข้าสู่กองประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ อย่างเป็นทางการ ซึ่งตลอดระยะเวลา เกือบ 1 เดือน ที่อยู่ร่วมกัน (ไม่กลับบ้าน) โดยจะมีภารกิจ และกิจกรรม ต่างๆ ที่ต้องเข้าร่วมในการประกวด ตลอดการประกวด จะเป็นการค้นหาอย่างเข้มข้น
โดยกองประกวดฯ จะพิจารณาผู้เข้าประกวดตามแบบฉบับความเป็น Miss Grand ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ “สวยพร้อมใช้” นั่นแปลว่าจะต้องเพียบพร้อมไปด้วยองค์ประกอบอื่นๆ นอกจากความสวยเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็น Beauty Queen Body, การแต่งกาย, ความรู้ ทัศนคติ, ทักษะการสื่อสาร และความมาดมั่น รวมไปถึงการนำเสนอเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร มีความสามารถรอบด้าน ทั้ง Skillset ด้านวงการบันเทิงในแขนงต่างๆ ความสามารถในฐานะคนของสังคม พูดนำเสนอสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีผลเสียต่อตนเอง ต่อองค์กร และผู้อื่น มีความคล่องตัวในการทำงานในฐานะ “บุคคลสาธารณะ” สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง ใช้ความคิดของตัวเองในการทำงาน ดูแลภาพรวมของตัวเองได้เป็นอย่างดีตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า แต่งหน้า ทำผม ทำทุกอย่างได้ครบถ้วน จึงจะตอบโจทย์ของความเป็นมิสแกรนด์อย่างแท้จริง ดังนั้นเวทีการประกวด Miss Grand Thailand จึงเป็นเวทีที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากที่สุด ด้วยรูปแบบการประกวดที่เร้าใจ ตื่นเต้น มีความเป็น Entertainment ในระดับ World Class และเป็นเวทีเดียวที่ต้องครบเครื่องในองค์ประกอบทั้ง 3 B (Body, Beauty and Brain)
เวที Miss Grand Thailand ประกอบไปด้วยรูปแบบ Show ทั้งหมด 5 Event ดังนี้ :
3. National Costume Competition อีกหนึ่ง Event ที่ทรงพลังมากที่สุดของการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ (Miss Grand Thailand) กับการนำเสนอเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ ผ่านชุดประจำจังหวัด เป็นการรวมพลังระหว่างเหล่า Designer ผนึกกำลังร่วมกับตัวแทนสาวงามทั้ง 77 จังหวัด เข้าประชันฝีมือผ่านการใช้ความคิดสร้างสรรค์ รังสรรค์วาดลวดลายลงในชุด นำเสนอความงดงามจากของดีประจำจังหวัด อวดโฉมให้ผู้ชมได้เห็นความสร้างสรรค์ที่หลากหลาย อย่างตระการตา เพื่อค้นหาหนึ่งเดียวที่จะกลายเป็น ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม (Best National Costume) บนเวทีการประกวด Miss Grand Thailand
4. Preliminary Competition เป็นรอบการประกวดก่อนเข้าสู่รอบตัดสินที่ท้าทายและตื่นเต้นที่สุด ซึ่งตัวแทนสาวงามผู้เข้าประกวดจะต้องแสดงความสามารถ ผ่านการเดินและการแสดง ด้วยชุดการประกวดต่างๆ ที่ทางกองประกวดฯ เป็นผู้กำหนด ไม่ว่าจะเป็น ชุดว่ายน้ำ, ชุดราตรีสั้น, ชุดราตรียาว พร้อม Unique Introduction แนะนำตัวทีละคนทีละชุด เพื่อให้ผู้ชมได้เต็มอิ่มไปกับการแสดงจากตัวแทนแต่ละจังหวัด
5. Final Show รอบตัดสินการประกวด ถือเป็นรอบที่มีจุดแข็งและจุดเด่นอย่างชัดเจน โดยไม่ใช้การแสดงจากศิลปินหรือบุคคลอื่น แต่คุณจะได้เห็นการใช้ศักยภาพการแสดงจากตัวของผู้เข้าประกวดเอง ผ่านรอบการแสดงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Opening Dance ที่มาพร้อมกับ Unique Introduction อีกทั้งยังมีรอบ Swimsuit Show, Speech, Long Gown Walk และ Crowning Moment ซึ่งถือเป็นรอบที่เน้นไปทางด้านการแสดงเป็นพิเศษ ร้อยเรียงเรื่องราวการแสดงแบบกระชับ สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ก่อนจะประกาศผลผู้ชนะให้ได้ทราบพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ จึงถือเป็นโชว์ที่มีความครบรสมากที่สุด
6. Close Interview Section : นอกเหนือไปจากนี้ยังมีอีกหนึ่ง Private Section ที่สำคัญที่สุดในเวทีการประกวด Miss Grand Thailand นั่นคือ Close Interview Section จะเป็นการให้คะแนนผู้เข้าประกวดตัวแทนแต่ละจังหวัด ผ่านการสัมภาษณ์พูดคุยจาก ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการกองประกวด และคณะกรรมการ เพื่อเป็นการทำความรู้จัก ตัวตน ในแง่มุมของความคิด ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความรอบรู้ของผู้เข้าประกวด
FAQ
Answer : Those who are interested in participating in the Miss Grand International (MGI) beauty pageant must contact the Miss Grand’s license holder in their countries to inquire more about participating in the pageant. They can also contact for details via email address: [email protected].
Answer : For each country’s representative to participate in the Miss Grand International (MGI) beauty pageant, they must have their own preparations to be ready to work or “Beauty with Readiness”, which means that in addition to taking care of the beauty of their own faces, they must be perfect in terms of body figure and proportion, have a Skill Set to take care of their own readiness in all elements, whether it is a good personality, designing their own beauty to be unique and different from other contestants through designing hair styles to suit their face shapes, putting on make up to match their own styles with their own skills. They also have to be ready in terms of comprehensive knowledge, up-to-date, skillfulness, smartness, and have a good attitude including the readiness of performance in terms of dancing skills, catwalk skills, acting skills or even communication skills which all skills are completely compiled in the components of the 3 B’s; namely Body, Beauty and Brain.
Answer : All Miss Grand International contestants must be between the ages of 18 – 29.
Answer : It is the most important for all Miss Grand International contestants to understand that the Miss Grand International (MGI) pageant is a unique beauty pageant. Therefore, we are not looking for beauty queens only, but you have to complete the 3 B’s elements: Body, Beauty and Brain, and make sure you have a complete skill set as well as unique talents. The more perfect readiness you have, you will become the person that the Miss Grand International Organization is looking for.
Answer : The person who wins the title of Miss Grand International has to move to reside in Thailand to do activities with the Miss Grand International Organization and sponsors who support the Miss Grand International (MGI) beauty pageant for a period of her 1 year reign.