วรัญชนา ระดมเล็ก หรือบิวตี้ เป็นลูกคนโตของครอบครัว โดยมีน้องชาย 1 คน อายุห่างกันราวๆ 10 ปี (พี่น้องคนละแม่) บิวตี้ช่วยที่บ้านทำงานมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะช่วยครอบครัวขายก๋วยเตี๋ยว ขายเสื้อผ้าเด็กเล็ก รวมไปถึงเปิดร้านขายกางเกงยีนส์ เธอเป็นเด็กที่รักการทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนมาก อาทิเช่น กิจกรรมวันพ่อ กิจกรรมวันแม่ ซึ่งคุณพ่อนั้นจะคอยสนับสนุนให้บิวตี้เข้าร่วมในทุกๆ กิจกรรม เธอจึงเป็นคนที่สนใจเรื่องความสวยความงามมาตั้งแต่เด็กๆ เธอเคยตั้งถามกับคุณพ่อว่า ทำไมตั้งชื่อให้เธอว่า “บิวตี้” คุณพ่อตอบกลับว่า “ก็เธอมีแววความสวยมาตั้งแต่เกิดยังไงล่ะ” บิวตี้เป็นเด็กที่ชอบร้อง ชอบเต้น คุณพ่อจึงส่งให้ไปเรียนร้องเพลงบ้าง เต้นบ้าง และคุณพ่อค่อนข้างจะผลักดันในด้านนี้เป็นพิเศษ แต่โดยส่วนตัวเธอรู้สึกว่าอาจจะไม่ได้อินกับส่วนนี้มากพอ จึงมาปรึกษากับคุณพ่อว่า ถ้าอยากลองมาประกวดเกี่ยวกับความสวยความงามจะเป็นอย่างไร? คุณพ่อจึงตัดสินใจส่งเธอเข้าประกวดเกี่ยวกับวงการนางงามมาตั้งแต่อายุ 15 ปี เธอจึงได้ซึมซับและมีความสนใจ รวมถึงพัฒนาตัวเองเพื่อเวทีการประกวดนางงามมาโดยตลอด โดยแกนนำหลักในการส่งเข้าประกวดจะเป็นคุณพ่อที่คอยสนับสนุน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ยังไม่มีทีมพี่เลี้ยง คุณพ่อก็จะเป็นคนสอนเดิน สอนพูด สอนทุกๆอย่าง ซึ่งท่านเองก็ได้ศึกษามาจากช่องทาง YouTube ตอนเด็กๆ เธอเคยคิดว่าที่มาของการเริ่มชอบการประกวดเพราะคุณพ่อชอบ และท่านอยากให้ลูกอยู่ในวงการบันเทิง แต่พอเริ่มทำบ่อยขึ้น จากที่รู้สึกเฉยๆ ก็กลายเป็นความชอบจริงๆ จากแค่ชอบก็กลายเป็นความรัก รักในการเป็นนางงาม บิวตี้คิดว่าตัวเธอเองและพ่อนั้น มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการได้มีโอกาสสวมมงกุฎ และได้ยืนโบกไม้โบกมือยิ้มสวยๆ ให้กับคนดูบนเวที เพื่อตอกย้ำตัวเองว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้มันไม่ได้มาง่าย ถ้าคุณยังพยายามไม่มากพอ และไม่ได้ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสิ่งที่คุณรัก ณ วันนี้จากคนที่เคยอยากจะยืนบนรองเท้าส้นสูง อยากจะเดินสวยๆ บนเวที อยากจะเป็นความภาคภูมิใจของใครสักคน ตอนนี้เธอได้ทำหน้าที่ตรงนี้ได้สำเร็จและสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้แล้ว บิวตี้เป็นเด็กที่ชอบไปโรงเรียนมากกว่าอยู่ที่บ้าน เธอเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล ก่อนจะย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่ปทุมธานีกับญาติพี่น้อง จึงได้มาเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนพระวิสุทธิวงส์ กว่า 9 ปีกับการเติบโตมากับโรงเรียนคริสต์ จึงมีความผูกพันธ์กับกิจกรรมทางศาสนาคริสต์มากๆ และจุดเปลี่ยนของการเรียนครั้งใหญ่คือ การย้ายโรงเรียนจากเอกชนไปโรงเรียนรัฐบาล เพราะเกิดความเบื่อหน่าย และได้ขอที่บ้านว่าอยากย้ายโรงเรียนเอง จึงได้มีโอกาสไปเรียนช่วงมัธยมศึกษาที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา 2 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เมื่อมาถึงช่วงการตัดสินใจครั้งสำคัญกับการเข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย ด้วยความที่ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นช่วงที่เธอเดินสายประกวดอย่างหนัก กระทั่งคุณพ่อรู้สึกว่าเธอสนใจในด้านนี้มากๆ จึงส่งให้เรียนมหาวิทยาลัยรังสิต คณะนิเทศศาสตร์ แต่เธอเข้าเรียนได้เพียง 1 ปี กลับรู้สึกไม่ค่อยชอบ และได้ขอไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุด ซึ่งเกี่ยวกับด้านตัวเลข เธอจึงกลายเป็นเด็กซิ่ว ไปเรียนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ และจบมาด้วยเกรดเฉลี่ยที่ภาคภูมิใจที่สุด